ไฟเขียวเปิดสอนสาขาขาดแคลน

Print Friendly

ศ.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า ที่ประชุมอนุมัติเพิ่มเติมสาขาวิชาที่ขาดแคลนของสำนักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา (สอศ.) อีก 12 สาขาวิชา คือ

  1. นิติศาสตร์
  2. อาหารและโภชนาการ/โภชนาการชุมชน
  3. การโรงแรม/การโรงแรมและบริการ/ธุรกิจโรงแรม
  4. เทคโนโลยีอุตสาหกรรมอาหาร/วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
  5. เคมีอุตสาหกรรม
  6. วิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม
  7. วิศวกรรมพลังงาน/พลังงานทดแทน
  8. เทคโนโลยีระบบราง/วิศวกรรมขนส่งระบบราง
  9. เทคโนโลยีอุตสาหกรรมบันเทิง/แอนิเมชั่น
  10. Digital Marketing
  11. อุตสาหกรรมศิลป์
  12. ช่างเครื่องเรือนและตกแต่ง

เนื่องจากเป็นสาขาที่คณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ ไม่ได้เปิดสอน รวมแล้วสอศ.มีสาขาที่ได้รับการประกาศ 98 สาขาวิชาชีพ

ศ.ไพฑูรย์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังพิจารณาสาขาวิชาชีพที่ขาดแคลน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอมา 21 สาขา ก่อนอนุมัติเพิ่ม 10 สาขาวิชา คือ

  1. ภาษาสเปน
  2. ภาษาเกาหลี
  3. ภาษาญี่ปุ่น
  4. กายภาพบำบัด
  5. กิจกรรมบำบัด
  6. จิตวิทยาคลินิก
  7. แพทย์แผนไทยประยุกต์
  8. แพทยศาสตร์
  9. เภสัชศาสตร์
  10. วิศวกรรมศาสตร์

ที่เหลืออีก 11 สาขาวิชา อาทิ คณิตศาสตร์ ฝรั่งเศส เป็นต้น ปกติคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์เปิดสอนอยู่แล้ว หากประกาศให้เป็นวิชาที่ขาดแคลน ก็จะไม่เป็นธรรมกับผู้ที่เรียนหลักสูตรครู 5 ปี

ที่มา : มติชน

เผยโฉมสติกเกอร์ LINE ค่านิยม 12 ประการ เปิดดาวน์โหลด 30 ธ.ค. – ครูระยอง

Print Friendly

กระทรวงไอซีที เปิดตัวสติกเกอร์ไลน์ค่านิยม 12 ประการ ประชาชนสามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมนี้ เจ้ากระทรวงยันเป็นราคาที่เหมาะสม…

จากกระแสข่าวสติกเกอร์ไลน์ค่านิยมหลัก 12 ประการ ที่จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือ 3 กระทรวง คือ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงไอซีที หรือกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ด้วยงบประมาณกว่า 7 ล้านบาท ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชนที่นิยมส่งสติกเกอร์ไลน์ได้แสดงความรู้สึกต่างๆ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ (22 ธันวาคม)

ภาพจาก kanokrat_TRnews

นายพรชัย รุจิประภา รมว.ไอซีที เปิดเผยว่า ในประเทศไทยมีผู้ใช้ไลน์ 33 ล้านแอคเคาท์ ส่งข้อความวันละประมาณ 40 ล้านข้อความ จึงต้องการให้ประชาชนฝังไปในจิตใจแล้วนำไปปฏิบัติ ตั้งเป้าจะมียอดดาวน์โหลด 3,500,000 แอคเคาท์ โดยมองว่าคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไป และจะทำให้ประชาชนเกิดค่านิยมรักความเป็นไทยมากขึ้น ส่วนตัวชี้วัดถึงความสำเร็จของการดาวน์โหลด

ส่วนกรณีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป รัฐมนตรีไอซีที ระบุว่า เป็นราคาที่เหมาะสม และการใช้ช่องทางไลน์นั้นสามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างกว้างขวาง ประชาชนสามารถโหลดฟรีผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2557

อย่างไรก็ตาม สติกเกอร์ไลน์ชุดดังกล่าวมีชื่อว่า ค่านิยมหลัก 12 ประการ มีทั้งหมด 16 คาแรกเตอร์ เป็นแบบเคลื่อนไหวได้ เพื่อสื่อถึงค่านิยมหลักและสัญลักษณ์ของประเทศไทย.

รายละเอียด :  http://www.sti.or.th/12cvlinesticker/

สำนึกรัก..บ้านเกิด โรงเรียนเก่า

Print Friendly

อีกไม่กี่วันประเพณีปีใหม่ 2558 ก็จะมาเยือน ภาพหนึ่งที่จะได้เห็นและกลายเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยยุคนี้ไปแล้วก็คือการหลั่งไหลของผู้คนจากกรุงเทพสู่ต่างจังหวัดซึ่งภาพเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่ปีใหม่แต่จะรวมถึงทุกประเพณีสำคัญหรือแม้แต่ช่วงที่มีวันหยุดยาว ที่เป็นเช่นนี้ก็ด้วยประชาชนต่างจังหวัดไปทำมาหากินในเมืองหลวงจำนวนมากนั่นเอง เมื่อถึงวันหยุดยาวจึงเป็นโอกาสได้กลับไปเยี่ยมญาติและก็มีจำนวนไม่น้อยที่จะได้ร่วมกันทำบุญสร้างคุณประโยชน์ให้กับบ้านเกิดด้วยการทอดกฐิน ผ้าป่า หาทุนทรัพย์ให้กับวัดหรือโรงเรียน แม้ว่าจะต้องดำเนินชีวิตอยู่ในท่ามกลางเศรษฐกิจที่รัดตัวแต่น้ำใจที่จะช่วยพัฒนาบ้านเกิดของคนกลุ่มนี้มีมาก จิตสำนึกนี้ผู้เขียนได้ประสบมากับตนเองจากการพูดคุยของคนงานที่บ่นเรื่องรายได้ไม่พอกับรายจ่ายทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเล่าเรียนของลูก และอีกสารพัดค่าเขาบอกว่าเหลืออย่างเดียวที่ยังมาไม่ถึงคือ“ (ค่า)ฆ่าตัวตาย”

แต่พอเปลี่ยนเรื่องคุยถึงปีใหม่ก็ชักชวนกันว่าจะกลับไปทอดผ้าป่าหาทุนให้กับโรงเรียนที่บ้านเกิด ฟังแล้วก็สะท้อนไปถึงผู้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนไม่น้อยที่มีความมั่นคงทั้งหน้าที่การงาน ฐานะความเป็นอยู่ แต่ไม่เคยนึกถึงบ้านเกิดส่วนนี้เลยพลอยให้นึกถึงเพลง”เด็กชายปึกแป้นปีก”ที่ครูสลา คุณวุฒิ ได้สะท้อนภาพเด็กชายปึกที่เรียนไม่เก่งแต่โตขึ้นแล้วเป็นคนดี เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น จึงขอนำเนื้อเพลงบางส่วน มาเล่าต่อ คือ “บักปึกหายไปหลายปีผ่านผัน แต่วันหนึ่งนั้น ครูทุกคนก็แปลกใจ ปึกกลับบ้านนา พร้อมผ้าป่ากองใหญ่ นำเงินมาให้ครูพัฒนาโรงเรียน ขณะที่คนเรียนดีหนีหาย เป็นเจ้าเป็นนาย ไม่เคยมาแวะเวียน แต่บักปึกแป้นปีกในวัยเรียนกลับมาแวะเวียน ด้วยน้ำใจที่งดงามสิ่งตอกย้ำถึงความเป็นคน ใช่อยู่ที่ผลของการเรียนดี คนเรียนเก่งคดโกงก็มากมี คนเรียนดี ขี้โกงก็มากมาย” เพลงนี้สะท้อนความเป็นจริงของสังคมไทยยุคปัจจุบันนี้ได้เป็นอย่างดี

เมื่อพูดถึงบ้านเกิด โรงเรียนเก่าของผู้เขียนที่อยู่จังหวัดกำแพงเพชร ก็มีโอกาสได้แวะเวียนไปเยี่ยมเยียนอยู่บ้าง เมื่อเห็นพัฒนาการแต่ละสถานศึกษาที่เคยเรียนมาแล้วก็ชื่นใจเพราะสมัยที่เรียนอยู่นั้นทั้งประถม มัธยมหรือวิทยาลัยครู ต้องอาศัยอาคารชั่วคราวเป็นที่เรียนทั้งสิ้นแต่ปัจจุบันได้กลายเป็นอาคารถาวรตึกใหญ่โตไปหมดแล้ว เพื่อให้เห็นภาพความเจริญก้าวหน้าที่ชัดเจนจึงขอยกตัวอย่างโรงเรียนที่ผู้เขียนเคยเป็นศิษย์เก่ารุ่นแรกๆในระดับมัธยมมาให้ทราบกัน คือ โรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม

พอพูดถึงโรงเรียนนี้แล้วก็คงต้องนึกย้อนหลังถึงโอกาสทางการศึกษาเมื่อ40-50 ปีก่อนกับเด็กในชนบทห่างไกล ถือว่ามีน้อยมากยิ่งระดับมัธยมด้วยแล้วแทบเป็นไปไม่ได้เลยเพราะทั้งความยากจน การคมนาคมไม่สะดวกและโรงเรียนระดับดังกล่าวส่วนใหญ่จะอยู่ที่ตัวจังหวัด ซึ่งผู้เขียนเองอยู่ในกลุ่มดังกล่าวที่มีโอกาสน้อยมากการศึกษาแค่ ป.4 ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่เพราะโชคช่วยพอจบ ป.4 โรงเรียนก็ขยายเพิ่ม ป.5พอจบ ป.7 ในหมู่บ้าน ก็เกิดโรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคมขึ้นเมื่อปี 2515 แต่โอกาสที่จะได้เรียนก็ยังยากอยู่ดี ต้นเหตุก็คือความยากด้วยไม่มีอุปกรณ์การเรียนแจกฟรีหรือมีเงินให้กู้ยืมเรียนเช่นปัจจุบัน การรับจ้างหาทุนเพื่อเรียนหนังสือกับเด็กในยุคนั้นจึงเป็นเรื่องปกติรวมถึงความไม่สะดวกการคมนาคม แม้ระยะทางจากหมู่บ้านของผู้เขียนไปถึงโรงเรียนแค่ 16 กิโลเมตรแต่ด้วย 8 กิโลเมตรแรกเป็นทางเกวียนหน้าฝนจะมีโคลนตมให้ติดหล่ม 2 ข้างทางเต็มไปด้วยป่า เมื่อรวมกับถนนลาดยางอีก 8 กิโลเมตรไปกลับต้องปั่นจักรยานไม่น้อยกว่าวันละ30กิโลเมตร ซึ่งเพื่อนคนอื่นๆก็ใช่ว่าจะไม่ลำบากเช่นนี้เพียงแต่จะมากหรือน้อยกว่ากันเท่านั้นเอง

ด้วยเป็นโรงเรียนเปิดใหม่บนเนื้อที่ 54 ไร่ ที่เต็มไปด้วยพงป่า ต้องอาศัยอาคารชั่วคราวหลังคามุงแฝก ไม่มีฝากั้นเมื่อแดดส่องก็ร้อน ฝนตกก็เปียก โต๊ะ เก้าอี้ ก็มีจำกัด ต้องใช้ปีกไม้ทำเป็นที่นั่งและที่เขียนเพิ่มให้ อุปกรณ์ก็มีแต่ชอล์คกับกระดานดำ ครูก็มีไม่กี่คน ผู้ที่พอมีฐานะหน่อยจึงส่งลูกหลานไปเรียนที่ตัวจังหวัด แต่สำหรับเด็กยากจนแล้วไม่ว่าจะอยู่ในตัวอำเภอหรือหมู่บ้านรอบนอกโรงเรียนแห่งนี้ถือว่ามีคุณค่าต่อชีวิตมากเพราะเป็นเส้นทางที่จะทำให้เดินไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นได้ เมื่อเด็กมีเป้าหมายกับการเรียนรู้ ความขยันมั่นเพียร การต่อสู้ชีวิตทุกอย่างที่จะให้ได้เรียนจึงมีอยู่มาก ครูอาจารย์แม้ต้องลำบากกับการเดินทาง เงินเดือนก็ไม่มากนักแต่ด้วยจิตวิญญาณของการเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งด้านความรู้ ทักษะวิชาชีพและทักษะชีวิต จึงเป็นเหมือนเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งให้กับลูกศิษย์ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง การอยู่แบบครอบครัวเดียวกัน การสอนของครูที่เกิดจากส่วนลึกของจิตใจ ทำให้นักเรียนรุ่นแรกๆของโรงเรียนแห่งนี้ประสบความสำเร็จมีอาชีพมั่นคงตามสายงานที่แต่ละคนถนัดและมีจำนวนไม่น้อยที่ได้กลับมาเป็นครูโรงเรียนแห่งนี้ในเวลาต่อมา

โรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม ได้พัฒนาก้าวหน้าตามกาลเวลาที่ล่วงเลยไปจากอาคารชั่วคราวก็กลายเป็นตึกหลายหลังมีความพร้อมด้านสื่อ อุปกรณ์กับการพัฒนาผู้เรียน ครู นักเรียนก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว กลายเป็นสถานศึกษาที่มีคุณภาพ ได้รับความเชื่อมั่นจากหน่วยเหนือให้เป็นโรงเรียนทดลองนำร่องโครงการและนโยบายต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนต้นแบบโรงเรียนในฝันรุ่นแรก โรงเรียนดีใกล้บ้าน โรงเรียนวิชาทหารดีเด่นตามโครงการศูนย์ฝึกแข่งขันสถานศึกษาร่วมใจ โรงเรียนที่ดำเนินการธนาคารโรงเรียนดีเด่นระดับประเทศ โรงเรียนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านคุณภาพจาก สมศ. เป็นต้น

ด้านคุณภาพผู้เรียนนอกจากผลการสอบ O-NET จะสูงกว่าระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับชาติแล้ว ยังได้รับรางวัลจากการประกวดแข่งขันกิจกรรมโครงการต่างๆ จากหน่วยงานต้นสังกัดและต่างสังกัดจำนวนมาก การพัฒนาแบบก้าวกระโดดนี้ก็มาจากความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้บริหารและคณะครูที่สืบทอดการพัฒนาต่อๆกันมาและสมาคมศิษย์เก่าก็เป็นอีกภาคส่วนสำคัญหนึ่งที่ได้สนับสนุนโรงเรียนนี้แทบจะทุกโอกาส อย่างเช่นช่วงต้อนรับปีใหม่ 2558 ที่จะมาถึงนี้ สมาคมศิษย์เก่าก็จะได้ร่วมกันทอดผ้าป่าการศึกษาเพื่อหาทุนพัฒนาโรงเรียนกันอีกครั้งในวันที่ 30 ธันวาคม 2557จึงขอเชิญชวนพี่เพื่อนน้องศิษย์เก่าทั้งหลายได้กลับไปร่วมสำนึกรักโรงเรียนเก่ากันอีกครั้งหากไม่สะดวกก็สามารถร่วมทอดผ้าป่าการศึกษาผ่านบัญชีธนาคารออมสิน เลขที่ 020078646625 ประเภทเงินฝากเผื่อเรียก ในนามสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคมก็ได้ แต่ครั้งนี้อยากให้ไปกันเพราะจะมีงานคืนสู่เหย้าชาว พ.พ. ในวันดังกล่าวด้วย

ที่ต้องนำเรื่องนี้มาเสนอก็เพื่อต้องการให้เห็นตัวอย่างการสำนึกรักบ้านเกิด โรงเรียนเก่าที่ศิษย์เก่าโรงเรียนแห่งนี้เขาทำกันหากท้องถิ่นใดทำอยู่แล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องดียิ่ง เพราะการศึกษาเป็นเรื่องใหญ่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐฝ่ายเดียวคงไม่ได้โดยเฉพาะโรงเรียนในชนบทที่ยังขาดความพร้อมรอการช่วยเหลืออีกมากหากได้ช่วยกันคนละไม้ละมือท้องถิ่นก็จะกลับมาน่าดู น่าอยู่ น่าอาศัย โรงเรียนก็จะเป็นที่น่าใฝ่หาความรู้มากขึ้น แต่หากมัวคิดเพียงว่าธุระไม่ใช่บ้านเกิดก็คงจะเหลือแต่คนแก่ โรงเรียนเก่าก็จะทรุดลงไปเรื่อยๆแล้วก็ถูกยุบไปในที่สุด แล้วอย่างนี้จะไปพูดถึงความภูมิใจในตำแหน่ง ฐานะเกียรติยศความเป็นมาของตนเองได้เต็มปากอย่างไร เพราะแม้แต่บ้านเกิด โรงเรียนเก่าก็ยังไม่เคยนึกถึง คนลืมบ้านเกิดเมืองนอนนั้นเขาถือว่าเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้านะจะบอกให้

โดย: กลิ่น สระทองเนียม
ที่มา : เดลินิวส์

ชี้ชะลอประเมินกระทบคุณภาพ

สมศ

Print Friendly

ผศ.จำรูญ ณ ระนอง นักวิชาการอิสระ กล่าวถึงกรณีที่ ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เสนอให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) หยุดการประเมินคุณภาพภายนอกเป็นเวลา 3 ปี เพื่อปรับปรุงวิธีการประเมินให้เหมาะสมว่า หากให้มีการหยุด หรือชะลอการประเมิน จะยิ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษา อีกทั้งทั่วโลกต่างยอมรับว่าคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษาจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อสถานศึกษามีการประกันคุณภาพภายใน มีการควบคุมด้วยตนเอง และต้นสังกัด นอกจากนี้ต้องมีการตรวจสอบจากภายนอก เพื่อยืนยันสภาพที่เป็นจริง ดังนั้นการประเมิน โดย สมศ. จึงเป็นสิ่งปลุกเร้าให้สถานศึกษาต้องทำให้มีการประกันคุณภาพภายในที่เข้มแข็งและต่อเนื่อง เพื่อส่งผลให้การศึกษาได้รับการพัฒนาอย่างแท้จริง

“การที่นักการศึกษาบางกลุ่มต้องการพัฒนาการศึกษา โดยเสนอให้ยุบ หรือระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ สมศ. นั้น เป็นการแก้ปัญหาแบบหลงทาง มองไม่ออกว่าอันใดเป็นเหตุเป็นผลหรือพูดง่ายๆ ว่า เกาไม่ถูกที่คัน ทั้งนี้ การแก้ปัญหาที่ถูกต้องทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันสนับสนุนให้สถานศึกษาได้มีการประกันคุณภาพภายในที่เข้มแข็ง และต่อเนื่อง ถึงจะทำให้สถานศึกษามีคุณภาพอย่างแท้จริง” ผศ.จำรูญ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการที่จะปรับการประเมิน ของ สมศ. จากประเมินสถานศึกษาทุกแห่ง เป็นแบบสุ่มตรวจประเมินสถานศึกษาบางแห่งนั้น ตนมองว่าจะไม่สามารถบอกได้เลยว่าสถานศึกษาที่ไม่ได้รับการประเมินมีคุณภาพอย่างไร มีจุดใดบ้างที่เป็นจุดอ่อนที่ต้องพัฒนา และจะต้องพัฒนาอย่างไร ดังนั้น จึงอยากให้ทบทวนในเรื่องนี้ด้วย.

ที่มา : เดลินิวส์

ข่าวอื่นๆ

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

สพฐ.แจ้งระยะเวลาสิ้นสุดการค้ำประกันเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต)

สถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา

Print Friendly

ตามที่ สพฐ. ได้ทำสัญญาซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) โซนที่ 1 (ภาคกลางและภาคใต้) เครื่องนักเรียนป.1 /โซนที่ 2 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เครื่องนักเรียนป.1 /โซนที่ 3 (ภาคกลางและภาคใต้) เครื่องครูและนักเรียน ม.1
สพฐ. จึงขอแจ้งระยะเวลาการค้ำประกันในแต่ละโซนดังนี้

  1. โซนที่ 1 (ภาคกลางและภาคใต้) ระยะเวลาการค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2557 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2558
  2. โซนที่ 2 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ระยะเวลาการค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 21 กรกฏาคม 2557 ถึงวันที่ 21 กรกฏาคม 2558
  3. โซนที่ 3 (ภาคกลางและภาคใต้) ระยะเวลาการค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2557 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2558

>> รายละเอียด <<

ข่าวอื่นๆ

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

รื้อโครงสร้างศธ. คำตอบ…ปฏิรูปการศึกษาไทย?

Print Friendly

เริ่มเห็นเค้าโครงร่างการปฏิรูปการศึกษารอบใหม่ว่าจะออกมาเช่นไร ตามแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในยุค พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย เป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.

ล่าสุด พล.ร.อ.ณรงค์ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา ศธ. มีผู้ทรงคุณวุฒิที่คุ้นชื่อกันดีในวงการศึกษาหลายท่านมาร่วมเป็นกรรมการ อาทิ นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมาธิการการปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)

นายวรากรณ์ สามโกเศศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. นางสิริกร มณีรินทร์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. เป็นต้น

แนวทางหลักที่จะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปในวันที่ 17 ธันวาคม ตามที่ นายพินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ระบุ จะประกอบด้วย 3 เรื่องหลัก คือ การปฏิรูปเชิงนโยบาย การปฏิรูปการบริหารจัดการ การปฏิรูปการเรียนรู้ และยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่รวมข้อเสนอการปรับโครงสร้างของ ศธ.อยู่ด้วย

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดของการปฏิรูปการศึกษารอบใหม่ในขณะนี้ คือ การปรับโครงสร้าง ศธ.ใหม่ ซึ่งได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะปรับเป็นทบวงการอาชีวศึกษา มีฐานะเป็นทบวงสังกัด ศธ. เพื่อให้การทำงานเชื่อมต่อกับการศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยได้อย่างเป็นเอกภาพ การให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กลับไปเป็นทบวงมหาวิทยาลัย และให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาไปขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี

ในขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หน่วยงานหลักที่ดูแลนักเรียนเกือบ 8 ล้าน นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ออกมาแสดงความชัดเจนว่า เตรียมเสนอปรับโครงสร้างเช่นเดียวกัน โดยต้องการเป็นทบวงการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยุบหน่วยงานต่างๆ ภายใน สพฐ.รวมเป็น 4 กรม ประกอบด้วย กรมประถมศึกษา กรมมัธยมศึกษา กรมวิชาการและมาตรฐานการศึกษาและกรมการศึกษาคนพิการ ด้อยโอกาส และเด็กอัจฉริยะ

การปฏิรูปการศึกษารอบใหม่นี้ถือว่าห่างจากการปฏิรูปการศึกษารอบแรกประมาณปี 2547 เกือบ 11 ปีมาแล้ว ในครั้งนั้นมีการยกเครื่องโครงสร้าง ศธ.ใหม่ทั้งหมด หากยังจำกันได้ว่าหน่วยงานเก่าๆ ที่ตั้งกันมานานถูกยุบเป็นหน่วยงานใหม่ในปัจจุบัน เช่น การยุบรวมกรมวิชาการ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) กรมสามัญศึกษามาเป็น สพฐ. การยกกรมอาชีวศึกษาขึ้นมาเป็น สอศ. การยุบทบวงมหาวิทยาลัย มาเป็น สกอ. เป็นต้น

โดยการปรับโครงสร้างในครั้งนั้นเพื่อให้มีความกระชับทำให้ ศธ.มีขนาดที่เล็กลง เน้นการ กระจายอำนาจไปยังส่วนภูมิภาค และคาดหวังกันว่าจะทำให้คุณภาพการศึกษาของไทยดีขึ้น แต่จากผลสะท้อนต่างๆ ที่ออกมาทั้งการประเมินในประเทศและระดับนานาชาติ เช่น ผลคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ที่ไม่ผ่านเกณฑ์เพียบ หรือข้อมูลเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพการศึกษา 144 ประเทศทั่วโลกของเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่ไทยเกือบรั้งท้ายประเทศกลุ่มอาเซียน

สามารถชี้ชัดได้ว่าโครงสร้างไม่ได้มีส่วนให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กไทยดีขึ้น แต่หัวใจสำคัญของการศึกษาอยู่ที่ ครู หลักสูตรการศึกษา และกระบวนการจัดการเรียนการสอน

ฉะนั้นหากการปฏิรูปการศึกษารอบใหม่ยังใช้โครงสร้างเป็นตัวนำ แล้วก็น่าคิดว่าจะคาดหวังในคุณภาพการศึกษาไทยได้มากน้อย แค่ไหน และจะเกิดคำถามตามมาว่า โครงสร้าง คือคำตอบของการปฏิรูปการศึกษา รอบนี้หรือไม่?

โดย : สุพัด ทีปะลา [email protected]
ที่มา : moe

อบจ.ระยองรับสมัครพนักงานจ้าง 103 อัตรา

Print Friendly

องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง จะดําเนินการสรรหาและเลือกสรรบุคคลเพื่อเป็นพนักงานจ้างประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ในตําแหน่งต่างๆ จํานวน 30 ตําแหน่ง รวมทั้งสิ้น 103 อัตราดังนี้

1. ตําแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายใน จํานวน 3 อัตรา

เงินเดือน 15,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตําแหน่ง ได้รับปริญญาตรีหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางบัญชี พาณิชยศาสตร์ หรือทางอื่นที่ ก.จ.รับรองว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

2. ตําแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป จํานวน 2 อัตรา

เงินเดือน 15,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ได้รับปริญญาตรีหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทุกสาขาที่ ก.จ. รับรองว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

3. ตําแหน่ง ผู้ช่วยนักวิชาการส่งเสริมสุขภาพ จํานวน 3 อัตรา

เงินเดือน 15,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตําแหน่ง ได้รับปริญญาตรีหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางสาธารณสุขศาสตร์ การพยาบาล สุขศึกษาหรือทางอื่นที่ก.จ. กําหนดว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

4. ตําแหน่ง ผู้ช่วยนักวิชาการศึกษา จํานวน 1 อัตรา

เงินเดือน 15,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ได้รับปริญญาตรีหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางการศึกษา หรือสาขาวิชาศึกษาศาสตร์ หรือคุณวุฒิอื่นที่ ก.จ. รับรองให้บรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูอบจ. ได้ หรือคุณวุฒิอื่นที่ ก.จ. กําหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้

5. ตําแหน่ง ผู้ช่วยบรรณารักษ์ จํานวน 1 อัตรา

เงินเดือน 15,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ได้รับปริญญาตรี หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางบรรณารักษ์ศาสตร์ สารนิเทศศาสตร์หรือทางอื่นที่ก.จ. รับรองว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

6. ตําแหน่ง ผู้ช่วยครู จํานวน 7 อัตรา

เงินเดือน 15,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตําแหน่ง

1. มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือสาขาวิชาศึกษาศาสตร์ หรือทางอื่นที่ ก.จ.กําหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งในกลุ่มวิชา ดังนี้

– ผู้ช่วยครู กลุ่มวิชาหรือทาง หรือสาขาวิชาเอกสังคมศึกษา จํานวน 1 อัตรา

– ผู้ช่วยครู กลุ่มวิชาหรือทาง หรือสาขาวิชาเอกสุขศึกษาและพลศึกษา จํานวน 1 อัตรา

– ผู้ช่วยครู กลุ่มวิชาหรือทาง หรือสาขาวิชาเอกศิลปะ จํานวน 2 อัตรา

– ผู้ช่วยครู กลุ่มวิชาหรือทาง หรือสาขาวิชาเอกนาฏศิลป์ จํานวน 1 อัตรา

– ผู้ช่วยครู กลุ่มวิชาหรือทาง หรือสาขาวิชาเอกอุตสาหกรรม จํานวน 1 อัตรา

– ผู้ช่วยครู กลุ่มวิชาหรือทาง หรือสาขาวิชาเอกภาษาไทย จํานวน 1 อัตรา

2. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน หรือหนังสืออนุญาตปฏิบัติการสอน หรือหนังสือรับรองสิทธิ ที่คุรุสภาออกให้

7. ตําแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี จํานวน 1 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 11,500 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางบัญชี พาณิชยการ เลขานุการ การบริหารธุรกิจ การจัดการทั่วไป สําหรับทางการบริหารธุรกิจ การจัดการทั่วไป จะต้องมี การศึกษาวิชาบัญชีไม่น้อยกว่า 15 หน่วยกิจ หรือทางอื่นที่ ก.จ. รับรองว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับ

ตําแหน่งนี้ได้
8. ตําแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าพนักงานพัสดุ จํานวน 3 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 11,500 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ ทางบัญชี เลขานุการเทคนิคการตลาด การธนาคาร และธุรกิจการเงิน เทคนิควิศวกรรมโยธา เทคนิคเขียนแบบ วิศวกรรมเครื่องกล พาณิชยการ บริหารธุรกิจ การจัดการทั่วไป ช่างโยธา ช่างก่อสร้าง ช่างเครื่องกล หรือทางอื่นที่ ก.จ.รับรองว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

9. ตําแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าพนักงานโภชนาการ จํานวน 1 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 11,500 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางคหกรรมศาสตร์ อาหารและโภชนาการ หรือทางอื่นที่ ก.จ. รับรองว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

10. ตําแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จํานวน 1 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 11,500 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ ทางวิศวกรรมเครื่องกลเทคนิควิศวกรรมโยธา เทคนิควิศวกรรมไฟฟ้า เทคนิคเครื่องเย็นและปรับอากาศ ทางช่างเครื่องยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างโยธา ช่างก่อสร้าง ช่างกลโรงงาน ช่างเชื่อมและโลหะแผ่น หรือทางอื่นที่ ก.จ.กําหนดว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

11. ตําแหน่ง ผู้ช่วยนายช่างโยธา จํานวน 3 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 11,500 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางเทคนิควิศวกรรมโยธาเทคนิควิศวกรรมสํารวจ เทคนิคสถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรม ช่างก่อสร้าง ช่างสํารวจ ช่างโยธา ก่อสร้างหรือทางอื่นที่ ก.จ. กําหนดว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตำแหน่งนี้ได้

12. ตําแหน่ง ผู้ช่วยนายช่างไฟฟ้า จํานวน 2 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 11,500 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางช่างไฟฟ้า ช่างเครื่องเย็นและปรับอากาศ ช่างอิเล็กทรอนิกส์หรือทางอื่นที่ ก.จ. กําหนดว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

13. ตําแหน่ง ผู้ช่วยนายช่างเขียนแบบ จํานวน 1 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 11,500 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้เทคนิควิศวกรรมโยธาช่างก่อสร้าง ก่อสร้าง ช่างโยธา ช่างเขียนแบบ สถาปัตยกรรม เทคนิคสถาปัตยกรรม หรือทางอื่นที่ ก.จ. กําหนดว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

14. ตําแหน่ง ผู้ช่วยช่างไฟฟ้า จํานวน 2 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,400 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางช่างไฟฟ้า ช่างอิเล็กทรอนิกส์หรือทางอื่นที่ ก.จ. กําหนดว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้ได้

15. ตำแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ธุการ จำนวน 2 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,400 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทุกสาขาที่ ก.จ. รับรอง ซึ่งได้ศึกษาวิชาคอมพิวเตอร์มาไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต หรือผ่านกาฝึกอบรมทางด้านการใช้คอมพิวเตอร์จากสถาบันการศึกษาของรัฐหรือเอกชนที่ได้รับการรับรองจากทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีระยะเวลาการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง

16. ตําแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี จํานวน 6 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,400 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางบัญชี พาณิชยการ เลขานุการบริหารธุรกิจ การจัดการทั่วไป (เฉพาะทางบริหารธุรกิจ และการจัดการทั่วไป ต้องมีการศึกษาวิชาบัญชีมาไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิจ) หรือทางอื่นที่ก.จ. กําหนดว่าใช้เป็นคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งนี้

17. ตําแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดหนัก จํานวน 3 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 15,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตําแหน่ง จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในงานที่จะปฏิบัติไม่ต่ำกว่า 5 ปีสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความมีทักษะในงานนั้นๆ โดยมีหนังสือรับรองการทํางานจากนายจ้างหรือหน่วยงาน ซึ่งระบุถึงลักษณะงานที่ได้ปฏิบัติ และได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ชนิดที่ 2

18. ตําแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดกลาง จํานวน 1 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 15,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตําแหน่ง จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในงานที่จะปฏิบัติไม่ต่ำกว่า 5 ปีสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความมีทักษะในงานนั้นๆ โดยมีหนังสือรับรองการทํางานจากนายจ้างหรือหน่วยงาน ซึ่งระบุถึงลักษณะงานที่ได้ปฏิบัติ และได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ชนิดที่ 2

19. ตําแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา จํานวน 1 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,400 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในงานที่จะปฏิบัติไม่ต่ำกว่า 5 ปีสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความมีทักษะในงานนั้นๆ โดยมีหนังสือรับรองการทํางานจากนายจ้างหรือหน่วยงาน ซึ่งระบุถึงลักษณะงานที่ได้ปฏิบัติหรือมีการทดสอบทักษะเฉพาะบุคคลด้วยการทดลองปฏิบัติ และได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ตามกฎหมาย และใบอนุญาตขับรถยนต์ตาม พ.ร.บ. ขนส่ง (ใบอนุญาตขับรถประเภทที่ 2)

20. ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ ปรับอากาศ จํานวน 2 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,400 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในงานที่จะปฏิบัติไม่ต่ำกว่า 5 ปี สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความมีทักษะในงานนั้นๆ โดยมีหนังสือรับรองการทํางานจากนายจ้างหรือหน่วยงาน ซึ่งระบุถึงลักษณะงานที่ได้ปฏิบัติหรือมีการทดสอบทักษะเฉพาะบุคคลด้วยการทดลองปฏิบัติ และได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ตามกฎหมาย และใบอนุญาตขับรถยนต์ตาม พ.ร.บ. ขนส่ง (ใบอนุญาตขับรถประเภทที่ 2)

21. ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ มินิบัส จํานวน 2 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,400 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในงานที่จะปฏิบัติไม่ต่ำกว่า 5 ปีสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความมีทักษะในงานนั้นๆ โดยมีหนังสือรับรองการทํางานจากนายจ้างหรือหน่วยงาน ซึ่งระบุถึงลักษณะงานที่ได้ปฏิบัติหรือมีการทดสอบทักษะเฉพาะบุคคลด้วยการทดลองปฏิบัติ และได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ตามกฎหมาย และใบอนุญาตขับรถยนต์ตาม พ.ร.บ. ขนส่ง (ใบอนุญาตขับรถประเภทที่ 2)

22. ตําแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ จํานวน 10 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,400 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในงานที่จะปฏิบัติไม่ต่ำกว่า 5 ปี สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความมีทักษะในงานนั้น ๆ โดยมีหนังสือรับรองการทํางานจากนายจ้างหรือหน่วยงานซึ่งระบุถึง ลักษณะงานที่ได้ปฏิบัติ และได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ตามกฎหมาย

23. ตําแหน่ง ผู้ช่วยช่วยชีวิตคน จํานวน 2 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,400 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในงานที่ปฏิบัติ ไม่ต่ำกว่า 5 ปี จะต้องมีหนังสือรับรองจากหน่วยงาน หรือส่วนราชการ

1. ตําแหน่ง คนงาน จํานวน 1 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง มีความสามารถเหมาะสมในการปฏิบัติงานในหน้าที่

2. ตําแหน่ง คนงานเกษตร จํานวน 2 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง มีความรู้ทางเกษตรเบื้องต้น และมีความสามารถเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่นี้เป็นอย่างดี

3. ตําแหน่ง คนงานประจํารถยนต์ปรับอากาศ จํานวน 1 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง มีความสามารถเหมาะสมในการปฏิบัติงานในหน้าที่

4. ตําแหน่ง คนงานประจําสนามกีฬา จ.ระยอง จํานวน 4 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง มีความสามารถเหมาะสมในการปฏิบัติงานในหน้าที่

5. ตําแหน่ง คนงานซ่อมแซมถนน จํานวน 12 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่ง มีสภาพร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดีสามารถปฏิบัติงานได้

6. ตําแหน่ง นักการ จํานวน 12 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตําแหน่ง มีความรู้ความสามารถเหมาะสมในการปฏิบตัิหน้าที่ มีความรู้ทาง ช่างไม้ ช่างปูน ซ่อมแซมดูแล วัสดุครุภัณฑ์ได้

7. ตําแหน่ง ผู้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลเด็กเล็ก จํานวน 11 อัตรา

ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ได้รับวุฒิ ม.3 หรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้

วัน เวลา สถานที่ดําเนินการสรรหาและเลือกสรร

องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหา และเลือกสรร วิธีการสรรหาและเลือกสรร หลักเกณฑ์การตัดสินและการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร วัน เวลา สถานที่ ดําเนินการสรรหาและเลือกสรร และระเบียบการสอบ ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง และทางเว็บไซต์ www.rayong-pao.go.th โดยให้เป็นหน้าที่ของผู้สมัคร จะต้องไปตรวจดูด้วยตนเอง

วัน เวลา สถานที่รับสมัคร

ให้ผู้ประสงค์จะสมัคร ขอใบสมัครและยื่นใบสมัครได้ที่ตึกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง (ชั้น 8) ตั้งแต่วันที่ 16 – 26 ธันวาคม 2557 ในวันและเวลาราชการ ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางโทรศัพท์ หมายเลข 0 3861 7430 ต่อ 711

เอกสารและหลักฐานที่ต้องนํามายื่นในวันสมัคร

  1. รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก และไม่สวมแว่นตาดํา ขนาด 1 นิ้ว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)จํานวน 3 รูป
  2. สําเนาทะเบียนบ้าน จํานวน 1 ฉบับ
  3. หลักฐานเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร จํานวน 1 ฉบับ
  4. สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน จํานวน 1 ฉบับ
  5. ใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าไม่เป็นโรคต้องห้ามตามที่คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกําหนด ออกให้ไม่เกิน 1 เดือนนับถึงวันรับสมัคร (ฉบับจริง)
  6. สําเนาใบแสดงคุณวุฒิการศึกษา จํานวน 1 ฉบับ พร้อมต้นฉบับ
  7. สําเนาใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตาม พ.ร.บ. ขนส่ง จํานวน 1 ฉบับ พร้อมต้นฉบับ(สําหรับตําแหน่งตามข้อ ก.17 – ก.21 เป็นใบอนุญาตขับรถชนิดที่ 2 ขึ้นไป สําหรับตําแหน่งตามข้อ ก.22 เป็นใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคล โดยตําแหน่งตามข้อ ก.17 – ก.22 ต้องมีหนังสือรับรองการผ่านงานจากหน่วยงานหรือส่วนราชการ ซึ่งต้องมีทักษะในตําแหน่งงานที่สมัคร ไม่ต่ํากว่า 5 ปี)
  8. หลักฐานอื่นๆ เช่น สําเนาใบเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล สําเนาทะเบียนสมรสจํานวน 1 ฉบับ พร้อมต้นฉบับ เอกสารต้นฉบับที่นํามายื่นในการสมัคร เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจถูกต้องกับสําเนาแล้ว จะคืนต้นฉบับให้ในวันรับสมัครนั้น

รายละเอียด

UTQ-02110 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับผู้สอนระดับประถมศึกษา

เฉลย UTQplus - ครูระยอง

Print Friendly

02110 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับผู้สอนระดับประถมศึกษา ผ่านแล้ว ได้ 15 คะแนน

  • ข้อใดเป็นผลการเรียนรู้ภาษาไทยที่มีคุณภาพสูงที่สุดและเชื่อถือได้
    – อ่านออก เขียนถูก รู้ความหมาย ใช้เป็น
  • ระดับความสามารถในการอ่านของผู้เรียนขั้นใดที่ผู้อ่านรับคุณค่าของการอ่านได้ทันที
    – อ่านรู้เรื่องเข้าใจเรื่องที่อ่าน
  • ข้อใดเป็นกระบวนการใช้ทักษะการคิดขั้นวิเคราะห์
    – อ่านข่าวแล้วสนทนาวิพากษ์วิจารณ์ข่าว
  • ข้อใดเป็นคุณค่าของการรวบรวมข้อคิดคำคมจากวรรณคดีวรรณกรรม
    – รับการถ่ายทอดค่านิยมและประเพณี
  • ลักษณะสำคัญของการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนาพหุปัญญาของผู้เรียน สอดคล้องกับข้อใด
    – จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นส่งเสริมข้อบกพร่องของผู้เรียน
  • การใช้หนังสือแบบเรียนและแบบฝึกหัดสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียว ส่งผลเสียต่อคุณภาพของผู้เรียนด้านใดมากที่สุด
    – ไม่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีอิสระทางความคิด
  • ข้อใดเป็นการจัดบทเรียนบูรณาการแบบคู่ขนาน
    – ครูร่วมกันวางแผนสอนเรื่องเดียวกัน แล้วต่างจัดกิจกรรมในวิชาที่ตนสอน
  • ข้อใดเป็นปัญหาของทักษะภาษาไทยที่ส่งผลต่อคะแนนผลสอบ O-Net มากที่สุด
    – ความสามารถในการอ่านตีความ
  • การจัดการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ คือข้อใด
    – การอ่านเพื่อค้นหาสาระสำคัญและการสรุปเรื่องที่อ่าน
  • การตรวจสอบคุณภาพของผู้เรียนเกิดจากกระบวนการในขั้นใด
    – ขั้นที่ครูจัดกิจกรรมและสะท้อนผลให้ผู้เรียนได้ทำหลายๆแบบ
  • ครูคนใดที่จัดการเรียนการสอนได้สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคลมากที่สุด
    – ให้ผู้เรียนเลือกทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับบทเรียนตามความสนใจ
  • ข้อใดเป็น “กระบวนการเรียนรู้” ที่พัฒนาผู้เรียนด้านทักษะการคิดมากที่สุด
    – อ่านเรื่อง คิดวิเคราะห์ สรุปเรื่อง ค้นหาข้อคิดและสำนวนภาษาที่น่าสนใจ
  • ข้อใดเป็นเหตุผลแสดงความอ่อนด้อยสมรรถนะของบุคคลด้านการแก้ปัญหามากที่สุด”
    – กินยาที่หมอพระผลิต / ยาผีบอกเพื่อรักษาโรค
  • การช่วยผู้เรียนให้ประสบผลสำเร็จในการเรียนได้มากที่สุด ข้อใดที่ครูส่วนใหญ่ละเลย
    – ครูวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลและนำผลมาออกแบบการเรียนรู้
  • กิจกรรมใดที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะภาษาและกระบวนการกลุ่มได้มากที่สุด
    – การแสดงละครหรือเล่นบทบาทสมมติ
  • ผลของการอ่านขั้นใดที่แสดงให้เห็นว่าผู้อ่านเข้าใจเรื่องที่อ่าน
    – สื่อความหมายรหัสภาษาและแสดงอาการตอบโต้
  • อะไรคือปัญหาที่ทำให้เด็กไทยไม่ชอบเขียนเรียงความ
    – ไม่มีข้อมูลในการเขียน
  • ตัวชี้วัดในการเขียนข้อใดเป็นตัวชี้วัดในระดับชั้นเรียนที่ต่ำที่สุด
    – เขียนสื่อสาร
  • ครูให้นักเรียนหาคำมาต่อจากคำว่า “กระ” เช่นกระจาด กระท้อน กระต่าย ฯลฯ แล้วทำกิจกรรมสำรวจว่าใครมีคำที่ไม่ซ้ำกับคนอื่นมากที่สุด ครูกำลังฝึกทักษะการคิดด้านใดให้กับผู้เรียน
    – คิดคล่อง
  • 20. ถ้าผลการประเมินผลความสามารถของผู้เรียนในการอ่านคิดวิเคราะห์เขียนสูง สะท้อนให้เห็นสภาพของสถานศึกษาว่าน่าจะมีสิ่งใดมากที่สุด
    – มีการสอดแทรกทักษะการอ่านคิดเขียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้

ที่มา : โอตะคุ น่ารักดี

ข่าวอื่นๆ

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

UTQ-02108 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับผู้สอนระดับประถมศึกษา

เฉลย UTQplus - ครูระยอง

Print Friendly

UTQ-02108 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สำหรับผู้สอนระดับประถมศึกษา 17/20

  • ข้อใดใช้หลักการ Repetition ในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
    – They put on the shirt. They put on the skirt.They put on the shorts.
  • ข้อใดเป็นความหมายของการจัดกิจกรรมในขั้น Production
    – ครูให้ผู้เรียนใช้ภาษาที่ฝึกมาบ้างแล้ว ผู้เรียนจะมีโอกาสใช้ภาษามากขึ้น
  • ข้อใดเป็น “ชิ้นงาน”
    – หุ่นจำลอง
  • ข้อใดคือกิจกรรม TPR
    – เป็นกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการฟัง (Listening Skill)
  • ข้อใดคือความหมายของ เกณฑ์การประเมินแบบ Analytic Rubric
    – แนวทางการให้คะแนน โดยพิจารณาจากแต่ละส่วนของงาน
  • กิจกรรมนำสู่การเรียน(Introduction Activity) ควรอยู่ในแผนการเรียนรู้ในข้อใด
    – ไม่จำเป็น
  • ข้อใดเป็นความหมายของการจัดกิจกรรมในขั้น Presentation
    – ครูเสนอเนื้อหาภาษาให้ผู้เรียนเข้าใจรูปแบบและความหมาย
  • ข้อใดไม่ใช่ข้อควรคำนึงในการใช้เกมทางภาษาอังกฤษมาใช้ในชั้นเรียน
    – สนุกสนานมากกว่าการนำภาษาไปใช้
  • ข้อใดใช้หลักการ Rhythm ในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
    – He writes in his book. And he cook some fish. He writes in his book. And he cook some pork. He writes in his book. And he cook some chicken
  • ข้อใดเป็นความหมายของการจัดกิจกรรมในขั้น Practice
    – ครูให้ผู้เรียนฝึกภาษาที่สอนไปแล้ว เป็นกิจกรรมที่ครูเป็นผู้ให้แนวทางหรือควบคุมอยู่
  • ข้อใดคือความหมายของ เกณฑ์การประเมินแบบ Holistic Rubric
    – แนวทางการให้คะแนน โดยพิจารณาจากภาพรวมของชิ้นงานหรือภาระงาน
  • กิจกรรมรวบยอด (Calumniating Activities) ควรอยู่ในแผนการเรียนรู้ในข้อใด
    – แผนที่ 8-10 ของหน่วยการเรียน
  • ข้อใดไม่ใช่หลักการนำกิจกรรมภาษาอังกฤษมาใช้ในชั้นเรียน
    – ผู้สอนจำเป็นต้องใช้กิจกรรมเพื่อประกอบการสอนทุกคาบการสอน
  • กิจกรรมที่ช่วยพัฒนาผู้เรียน(Enabling Activities) ควรอยู่ในแผนการเรียนรู้ในข้อใด
    – แผนที่ 5 – 7 ของหน่วยการเรียน
  • ข้อใดเป็น “ภาระงาน”
    – การแสดงบทบาทสมมติ
  • ข้อใดเป็นแนวคิดในการสอนภาษาอังกฤษของกลุ่ม Behaviorist
    – ผู้เรียนจะเรียนรู้และจดจำภาษาได้ดีนั้นต้องฝึกการใช้ภาษาให้เป็นนิสัย
  • การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวธรรมชาติหมายถึงข้อใด
    – ครูร้องเพลงให้นักเรียนฝึกร้องตามก่อนจึงฝึกอ่านเนื้อเพลง
  • ข้อใดเป็นแนวคิดในการสอนภาษาอังกฤษของกลุ่ม Cognitivism
    – การเรียนรู้ภาษานั้นผู้เรียนต้องได้ฝึกการใช้ความคิดและสติปัญญาควบคู่ไปด้วย
  • แนวคิดใดมาจากทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม
    – การกระทำของมนุษย์เกิดจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก
  • แนวคิดใดมาจากทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพุทธินิยม
    – กลุ่มนี้เน้นกระบวนการทางปัญญาหรือความคิดกับการฝึก

ที่มา : โอตะคุ น่ารักดี

ข่าวอื่นๆ

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

UTQ-02105 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับผู้สอนระดับประถมศึกษา

เฉลย UTQplus - ครูระยอง

Print Friendly

UTQ-02105 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับผู้สอนระดับประถมศึกษา

  • บทบาทคุณครูในการส่งเสริมให้นักเรียนสำรวจค้นหาวิธีการแก้ปัญหา/เสนอแนวทาง แก้ปัญหาด้วยตนเองโดยตั้งคำถาม เพื่อนำไปสู่การคิดวิเคราะห์จาสื่อรูปธรรม/กึ่งรูปธรรมตรงกับรูปแบบการ จัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบใด
    – รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ (5Es)
  • เครื่องมือวัดผลทางคณิตศาสตร์ในข้อใดไม่จำเป็นต้องมีเกณฑ์แบบรูบริค
    – ข้อสอบแบบเลือกตอบ
  • องค์ประกอบที่จะช่วยให้นักเรียนมีความพร้อมในการเรียนรู้การบวกคือข้อใด
    – ประสบการณ์ และวุฒิภาวะ
  • ตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดับใด
    – ระดับการศึกษาภาคบังคับ
  • ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของโครงสร้างรายวิชา
    – ชิ้นงาน
  • แนวทางการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่อไปนี้ข้อใดถูกต้องที่สุด
    – ควรเน้นให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
  • ใช้สถานการณ์ต่อไปนี้ตอบคำถาม ครูมนัสกำหนดเกณฑ์การให้คะแนนผลงานของนักเรียน เรื่องแผนผังและมาตราส่วน ดังนี้
    1. มีแผนผังแสดงรายละเอียดครบถ้วน แต่มาตราส่วนไม่ถูกต้อง
    2. มีแผนผังแสดงรายละเอียดไม่ครบถ้วน แต่ใช้มาตราส่วนถูกต้อง
    3. มีแผนผังแสดงรายละเอียดได้ครบถ้วน และใช้มาตราส่วนถูกต้อง
    4. มีแผนผังแสดงรายละเอียดไม่ครบถ้วน และมาตราส่วนไม่ถูกต้อง
    ข้อใดเรียงลำดับคุณภาพของผลงานจากระดับสูงสุดลงมาถึงระดับต่ำสุดได้เหมาะสม
    – 3, 1, 4, 2
  • ข้อใดสำคัญที่สุดเกี่ยวกับการประเมินผลก่อนเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551
    – เพื่อวิเคราะห์ว่าผู้เรียนรู้อะไรมาก่อนบ้างเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนและสิ่งที่รู้มาก่อนนี้ถูกต้องหรือไม่
  • บทบาทคุณครูในการส่งเสริมให้นักเรียนสำรวจค้นหาวิธีการแก้ปัญหา/เสนอแนวทาง แก้ปัญหาด้วยตนเองโดยตั้งคำถาม เพื่อนำไปสู่การคิดวิเคราะห์จากสื่อรูปธรรม/กึ่งรูปธรรมตรงกับรูปแบบการ จัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบใด
    – รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ (5Es)
  • ข้อใดเป็นจำนวนนับทั้งหมด
    – 12, 1, 3, 5, 9
  • ข้อใดกล่าว ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการให้คะแนนโดยใช้เกณฑ์แบบรูบริคในการเรียนการสอนคณิตศาสตร์
    – การให้คะแนนแบบวิเคราะห์มักนำมาใช้ในการประเมินผลเพื่อตัดสินหรือสรุปผล การเรียนของนักเรียน
  • ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นั้นควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นลำดับแรก
    – สาระการเรียนรู้
  • ถ้าครูต้องการฝึกให้ผู้เรียนเผชิญปัญหา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ และ หาแนวทางแก้ปัญหาด้วยตนเอง ควรใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบใด
    – รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ตามแนวคิดทฤษฏีคอนสตรัคติวิสต์
  • การจัดการเรียนรู้การบวก ควรมีลำดับขั้นต่อไปนี้
    – การเตรียมความพร้อมการเรียนรู้การบวก ความหมายของการบวก การบวกเบื้องต้น สมบัติการบวก ความพร้อมของการเรียนรู้กรรมวิธีการบวก กรรมวิธีการบวก
  • แนวทางการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ให้ผู้เรียนฝึกเขียนสถานการณ์ปัญหา อย่างสม่ำเสมอ มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างไร ให้พิจารณาจากข้อความที่กำหนดให้ต่อไปนี้
    1. ทำให้ครูทราบพื้นฐานของผู้เรียน
    2. ช่วยให้ผู้เรียนสนใจการแก้ปัญหา
    3. ช่วยให้ผู้เรียนคุ้นเคยกับสถานการณ์ปัญหา
    4. ฝึกการเขียน/ทำความเข้าใจภาษา
    – 1 2 3
  • จากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แบ่งเป็น 3 ลักษณะ มีอะไรบ้าง
    – กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
  • บทบาทของผู้สอนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ผู้สอนต้องดำเนินการขั้นตอนใดเป็นอันดับแรก
    – ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล
  • การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์จำเป็นต้องใช้สื่อการเรียนรู้ประกอบ ท่านมีแนวคิดในการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้อย่างไร
    – หาได้ง่ายในท้องถิ่น/สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้
  • หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดให้รายวิชาพื้นฐานต้องใช้ตัวชี้วัด กำหนดคุณภาพของผู้เรียน และกำหนดให้รายวิชเพิ่มเติมต้องใช้อะไรกำหนดคุณภาพของผู้เรียน
    – ผลการเรียนรู้
  • จากการศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในใบความรู้ ข้อใดคือจุดเน้นที่แตกต่างกัน
    – เน้นทักษะกระบวนการคิด การอภิปราย การให้เหตุผล

ที่มา : โอตะคุ น่ารักดี

ข่าวอื่นๆ

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

Our partners from Mexico:
Productos de salud
Carlos Torre