พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการสอบบรรจุในตำแหน่ง ครูผู้ช่วย สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. จำนวน 8,000 อัตรา ว่า เป็นการเปิดสอบบรรจุเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนครู โดยครูผู้ช่วยจะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการระดับซี 3 และเมื่อทำงานครบ 2 ปี ก็มีสิทธิ์เลื่อนวิทยฐานะเป็นตำแหน่งครูต่อไป โดยจะเปิดสมัครสอบในช่วงเดือนกันยายน สอบในช่วงเดือนตุลาคม และจะพยายามประกาศผลสอบให้ทันเพื่อบรรจุครูผู้ช่วยให้ทันในภาคเรียนที่สองของปีการศึกษานี้
ทั้งนี้การสอบบรรจุที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียน ตลอดจนปัญหาหลายประการทำให้ไม่สามารถบรรจุครูได้ครบตามอัตราที่ขาดแคลน อาทิ หลักเกณฑ์เดิม แม้จะสอบวันเดียวกันแต่เปิดโอกาสให้สมัครสอบหลายพื้นที่ ทำให้เกิดการรับจ้างเข้าสอบแทน จนคนเดียวมีชื่อสอบติดหลายแห่ง
“ที่ผ่านมาหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันมีช่องโหว่ เอื้อให้เกิดการทุจริต และปัญหาความไม่โปร่งใสต่างๆ ทำให้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและต้องการพัฒนาท้องถิ่น อาจไม่สามารถสอบเข้าสู่ระบบได้รัฐบาลจึงได้มีการทบทวนจุดอ่อนของการเปิดสอบที่ผ่านมาและมอบหมายให้ กระทรวงศึกษาธิการ โดยคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสอบบรรจุใหม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสที่สุด”
ทั้งนี้หลักเกณฑ์ใหม่กำหนดให้ คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน โดยให้รวมกลุ่มกันในพื้นที่เขตตรวจราชการ แล้วมอบให้สถาบันอุดมศึกษาที่เห็นสมควรเป็นผู้ดำเนินการออกข้อสอบตามหลักสูตรที่กำหนด กำหนดวันสอบของทุกเขตในวันเดียวกัน และผู้สมัครสามารถเลือกสอบได้เพียงเขตเดียว
สำหรับการสอบแบ่งเป็น ภาค ก ความรู้ ความสามารถทั่วไป อุดมการณ์ของความเป็นครู จำนวน 150 คะแนน ภาค ข ความรู้ ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง 150 คะแนน ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ 50 คะแนน
“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านฝากไปยังผู้ตั้งใจอยากทำหน้าที่ครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้เด็กไทยว่า ขอให้คนเก่ง คนดี คนมีใจรักในวิชาชีพครูมาสอบครั้งนี้กันมากๆ เชื่อว่าระบบการสอบรูปแบบใหม่จะมีความโปร่งใสและให้ความยุติธรรมกับทุกคน อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ และท่านกำชับให้การสอบครั้งนี้ต้องโปร่งใส ตรงไปตรงมา และ เป็นธรรม ห้ามมีการทุจริตโดยเด็ดขาด”
ที่มา : สยามรัฐ