นายธีร์ ภวังคนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน (ฉก.ชน.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมา สพฐ.จะได้รับการร้องเรียนกรณีเกิดเหตุอันไม่เหมาะสมระหว่างครูและบุคลากรทางการศึกษาที่กระทำต่อนักเรียน โดย ฉก.ชน.ซึ่งมีหน้าที่การคุ้มครอง ดูแลนักเรียนจะต้องลงไปติดตาม ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือเยียวยานักเรียนในทุกกรณี อาทิ ครูลงโทษเกินกว่าเหตุ การล่วงละเมิดทางเพศ กระทำอนาจาร เป็นต้น
โดยในอนาคตเพื่อให้การทำงานคล่องตัวและรวดเร็วขึ้น ตนกำลังเตรียมจัดทำระบบฐานข้อมูลการคุ้มครองนักเรียน โดยระบบดังกล่าวจะรวบรวมข้อมูลของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมต่อนักเรียนในทุกกรณีที่ได้รับการร้องเรียน หรือตัดสินความผิดแล้ว เบื้องต้นระบบดังกล่าวจะใช้เป็นข้อมูลภายในโรงเรียนในสังกัด สพฐ. เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของครูที่สงสัยว่าอาจมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่หากสถานศึกษาสังกัดอื่น ๆ อาทิ โรงเรียนเอกชน ที่อยากจะตรวจสอบประวัติครูที่ไปสมัครเป็นอาจารย์สอนก็สามารถทำเรื่องแจ้งมาขอตรวจสอบกับ ฉก.ชน.ได้
“ที่ผ่านมาเราก็เก็บข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษาที่กระทำผิดไว้ทั้งหมด เพียงแต่ยังไม่ได้จัดระบบฐานข้อมูลที่ดีพอ แต่ระบบดังกล่าวคงไม่สามารถทำเป็นระบบเปิดให้ทุกคนมาดูข้อมูลได้อย่างเสรี เพราะต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายและสิทธิของบุคคลนั้นด้วย แต่หากใครต้องการจะตรวจสอบก็ประสานมาที่เราได้ อีกทั้งครูบางคนแม้จะกระทำผิดในเรื่องที่รุนแรง แต่บางครั้งโทษที่ได้รับอาจไม่รุนแรง เช่น ครูลงโทษเด็กรุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่เมื่อสอบสวนผลออกมาอาจถูกลงโทษแค่ว่ากล่าวตักเตือน หรือให้ออกจากราชการ เป็นต้น เพราะฉะนั้น การทำประวัติไว้เพื่อไว้เป็นข้อมูลตรวจสอบ และเพื่อให้ครูที่เคยกระทำผิดปรับปรุงตัวไม่กล้ากระทำความผิดซ้ำสอง หรือคิดว่าไม่มีใครรู้ตัวเองว่าเคยทำผิดอะไรมาก่อน“นายธีร์ กล่าว
ที่มา : สยามรัฐ