นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่าที่ประชุมเห็นชอบร่างแนวปฏิบัติในการจัดโครงสร้างเวลาเรียนระดับประถมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างเวลาเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติม และเกณฑ์การจบหลักสูตร เพื่อให้สถานศึกษานำไปปรับใช้ให้เกิดความยืดหยุ่นในการจัดการเรียนการสอน
ทั้งนี้ โครงสร้างเวลาเรียนตามหลักสูตรแกนกลางกรศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 นั้นกำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนรวมสำหรับระดับประถมศึกษา ไม่น้อยกว่า 1,000 ชั่วโมงต่อปี ดังนี้ รายวิชาพื้นฐาน 840 ชั่วโมงต่อ ปี แบ่งเป็น
- ภาษาไทย ป.1-3 จำนวน 200 ชั่วโมงต่อปี ป.4-6 จำนวน 160 ชั่วโมงต่อปี
- คณิตศาสตร์ ป.1-3 จำนวน 200 ชั่วโมงต่อปี ป.4-6 จำนวน 160 ชั่วโมงต่อปี
- วิทยาศาสตร์ ป.1-6 จำนวน 80 ชั่วโมงต่อปี
- สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.1-6 จำนวน 120 ต่อปี
- สุขศึกษาและพลศึกษา ป.1-6 จำนวน 80 ชั่วโมงต่อปี
- ศิลปะ ป.1-6 จำนวน 80 ชั่วโมงต่อปี
- การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.1-3 จำนวน 40 ชั่วโมงต่อปี ป.4-6 จำนวน 80 ชั่วโมงต่อปี
- ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) ป.1-3 จำนวน 40 ชั่วโมงต่อปี ป.4-6 จำนวน 80 ชั่วโมงต่อปี
- กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 120 ชั่วโมงต่อปี รายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติม ไม่น้อยกว่า 40 ชั่วโมงต่อปี
“กรอบเวลาที่กำหนดไว้ในโครงสร้างเวลาเรียน เป็นตัวเลขที่นักเรียนสามารถเรียนและบรรลุการเรียนรู้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ แต่ต่อไปหากสถานศึกษาใดมีความจำเป็น ต้องการปรับลด หรือเพิ่มเวลาเรียนในวิชาพื้นฐานแต่ละกลุ่มสาระฯ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ก็สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสม โดยมีเงื่อนไขว่าผู้เรียนจะต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานหรือตัวชี้วัดที่แต่ละกลุ่มสาระกำหนด นอกจากนั้น ยังสามารถบูรณาการหลักสูตรการเรียนรู้ ในแต่ละกลุ่มสาระฯ ที่สอดคล้องกันมาจัดการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหา ลดภาระงานและเวลาเรียนของผู้เรียน”นายกมล กล่าว อย่างไรก็ตาม จากนี้ สพฐ.จะไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมและรายงานให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้รับทราบ ก่อนประกาศเป็นแนวปฏิบัติฯ เพื่อให้สถานศึกษานำไปใช้ตั้งแต่เปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 นี้
ที่มา : ผู้จัดการ