นายอภิชาติ จีระวุฒิ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสอบสวนวินัยร้ายแรง ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กรณีทุจริตการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีมีเหตุจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ตามที่ รมว.ศึกษาธิการได้มีคำสั่งแต่งตั้งสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง จำนวน 2 คดี ซึ่งมีตนเป็นประธานทั้ง 2 คณะ
คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เห็นชอบให้รวมทั้ง 2 คดีเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตาม พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนฯดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถทำได้แล้วเสร็จ เพราะคดีนี้เป็นคดีใหญ่มีพยานจำนวนเป็นร้อยคน ส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด แต่ก็จะเดินหน้าสอบสวนต่อ ซึ่งจากการสอบสวนฯมีพยานปากสำคัญอยู่ 1 ปาก ที่คณะกรรมการสอบสวนฯได้สอบปากคำและมีความเห็นว่าน่าจะต้องดำเนินการทางวินัยเพิ่มเติมอีกจึงจะสมบูรณ์ ซึ่งได้ทำหนังสือชี้แจงให้รมว.ศึกษาธิการรับทราบแล้ว
นายอภิชาติกล่าวต่อว่า เนื่องจากมีการสอบวินัยร้ายแรงไว้ก่อนที่ ดร.ชินภัทรจะเกษียณอายุราชการ ผลสอบวินัยยังมีอยู่ หากลงโทษไม่ร้ายแรง เช่น ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดขั้นเงินเดือน ก็ลงโทษไม่ได้เนื่องจากพ้นราชการไปแล้วไม่มีเงินเดือนให้หัก แต่ถ้าลงโทษร้ายแรงคือ ปลดออก หรือไล่ออก กรณีนี้จะมีผลเฉพาะถูกไล่ออก บำเหน็จบำนาญ และสิทธิประโยชน์ ที่รับไปแล้วต้องนำมาคืนหลวง แต่ถ้าถูกปลดออกจะได้รับบำเหน็จบำนาญต่อไป
ที่มา : ไทยรัฐ