คุรุสภากำหนดส่งผลงานคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเพื่อรับรางวัลคุรุสภาประจำปี 2558

Print Friendly

คุรุสภาโดยมูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกประกาศเรื่อง การขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2558 สมาชิกคุรุสภาที่ต้องการ ยื่นแบบขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติครูอาวุโสและเงินช่วยเหลือ ประจำปี 2558 ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  1. เป็นสมาชิกคุรุสภาตาม พระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ทางการศึกษา ตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2558
  2. ได้รับเงินเดือน ประจำและมีระยะเวลาประกอบวิชาชีพรวมกันไม่น้อยกว่า 30 ปี กรณี เป็นผู้บริหารการศึกษา หรือบุคลากรทางการศึกษาอื่นต้องเคยเป็นครูหรือ ผู้บริหารสถานศึกษามาแล้ว ไม่น้อยกว่า 10 ปี
  3. เป็นครูหรือดำรงตำแหน่งอื่น เกี่ยวกับการให้การศึกษาจนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์
  4. มีประวัติชีวิตการงานดีตลอดมา

ทั้งนี้ สามารถยื่นแบบคำขอพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณา ได้ที่หน่วยงานต้นสังกัดของผู้ยื่นแบบคำขอ ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2558 สำหรับผู้ที่จะขอรับความช่วยเหลือ ทางการเงินต้องแนบแบบขอรับความช่วยเหลือทางการเงินและเอกสาร ที่เกี่ยวข้องประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม

กรณีที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปี 2557 แต่ยังมิได้ขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติฯ ให้มีสิทธิยื่นคำขอในปีนี้ได้อีกครั้งหนึ่งแต่ขอรับได้เฉพาะเครื่องหมายเชิดชูเกียรติเท่านั้น สำหรับกำหนดการ เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือผู้แทนพระองค์ ประมาณเดือนสิงหาคม 2559 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดแบบขอรับเครื่องหมาย เชิดชูเกียรติครูอาวุโสได้ที่เว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th

กำหนดส่งผลงานคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เพื่อรับรางวัลคุรุสภา ประจำปี พ.ศ. 2558 ภายในวันที่ 20 เมษายน 2558

คุรุสภาประกาศคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เพื่อรับ “รางวัลคุรุสภา” ประจำปี พ.ศ. 2558 จำนวน 9 รางวัล ประกอบด้วย ครู 5 รางวัล ผู้บริหารสถานศึกษา 2 รางวัล ผู้บริหารการศึกษา 1 รางวัล ศึกษานิเทศก์ 1 รางวัล เพื่อรับรางวัลในงานวันครู วันที่ 16 มกราคม 2559

คุณสมบัติของผู้ขอรับรางวัล เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามพระราชบัญญัติสภาครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 มีระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ตามตำแหน่งที่ขอรับรางวัลเป็นเวลาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี ปฏิบัติงาน และปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ และต้องไม่เคยได้รับรางวัลคุรุสภาในประเภทเดียวกันมาก่อน

วิธีการพิจารณาคัดเลือก ประเภทครู ผู้บริหารสถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ คัดเลือกโดย “คุรุสภาเขตพื้นที่การศึกษา” และ “หน่วยงานต้นสังกัด” ดังนี้

  1. ผู้เสนอขอรับรางวัลคุรุสภาสังกัด สพฐ. (สพป. และ สพม.) และสังกัดเอกชน ในเขตพื้นที่ให้เสนอผลงานไปยังคุรุสภาเขตพื้นที่การศึกษา
  2. ผู้เสนอขอรับรางวัลคุรุสภาที่อยู่ในสังกัด สอศ. กศน. กทม. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การศึกษาพิเศษ สคบศ. วิทยาลัยชุมชน สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สถาบันการพลศึกษา และ สช. (เฉพาะที่ปฏิบัติงานใน กทม.)

ให้เสนอผลงานไปยังหน่วยงาน ต้นสังกัด ภายในวันที่ 20 เมษายน 2558 เพื่อให้พิจารณาคัดเลือกเสนอ คุรุสภาภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ประเภทละ 1 คน รวม 3 คน

ประเภทผู้บริหารการศึกษา คัดเลือกโดย สังกัด กศน. จำนวน 2 คน สพฐ. จำนวน 5 คน กทม. จำนวน 2 คน ผู้ขอรับรางวัลคุรุสภา ให้เสนอผลงานไปยังต้นสังกัดภายในวันที่ 20 เมษายน 2558 เพื่อให้พิจารณาเสนอคุรุสภาภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2558

จากนั้น คณะอนุกรรมการจะพิจารณาคัดเลือกรอบแรกจาก เอกสารผลงานที่เสนอให้เหลือจำนวน 27 คน ประกอบด้วย ครู จำนวน 15 คน ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 6 คน ผู้บริหาร การศึกษา จำนวน 3 คน และศึกษานิเทศก์ จำนวน 3 คน เพื่อคัดเลือก รอบตัดสิน โดยคณะอนุกรรมการเดินทางไปประเมินผลงานตาม สภาพจริง ณ สถานที่ปฏิบัติงาน เพื่อคัดเลือกผู้ที่สมควรได้รับรางวัลคุรุสภา ระดับดีเด่น จำนวน 9 คน ตามประกาศ เพื่อรับรางวัล เข็มทองคำ “คุรุสภาสดุดี” โล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตร และเงินรางวัลตามที่มูลนิธิรางวัลคุรุสภาจะพิจารณาในงานวันครู ประจำปี 2559

ทั้งนี้ ผู้เสนอขอรับรางวัลต้องจัดทำผลงานจำนวน 2 เล่ม ความหนา ไม่เกิน 100 หน้า และสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มการเสนอขอรับ รางวัลและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ksp.or.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพ สำนักยกย่องเชิดชูเกียรติวิชาชีพ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โทร.0-2282-3154 และ 0-2281-4843

รายละเอียด : 1, 2, 3, 4

ที่มา : moe

krurayong

ผู้เขียน: krurayong

สุธาราทิพย์ แสงสุวรรณ เป็นที่ปรึกษาและติดยาเสพติดอายุ 31 ปีที่โรงพยาบาลศรีวิชัย เธอสำเร็จการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี 2553 เธอทำงานกับทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่เพื่อจัดการกับปัญหาการเสพติดและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและแอลกอฮอล์ ในเวลาว่างของเธอเธอมีส่วนร่วมในชมรมละครของชุมชนท้องถิ่น